วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้าน ลูกชิ้นปิ้ง (น้ำจิ้มสูตรเด็ด)

ลูกชิ้นปิ้ง,สูตร,น้ำจิ้มลูกชิ้น,เปิดร้านลูกชิ้นง่ายๆ,ต้นทุนต่ำ,ไอเดีย ร้านลูกชิ้นปิ้ง


ร้าน ลูกชิ้นปิ้ง


อีกหนึ่งอาชีพที่จะนำเสนอในวันนี้คือ "ลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มสูตรเด็ด"

“น้ำจิ้มลูกชิ้นสูตรเด็ด” นั้นมีหลายสูตร ส่วนผสมและวิธีทำอาจมีความคล้ายกันก็จริง แต่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดที่รสชาติและความเหนียวข้นของน้ำจิ้ม(ที่เป็นจุดเด่นและจุดขาย)

และเคล็ดลับในการทำน้ำจิ้มให้มีรสอร่อย เพื่อขายคู่กับลูกชิ้นปิ้งนั้น
นอกจากเครื่องปรุงหรือส่วนผสมที่ลงตัวแล้ว
ขั้นตอนการเคี่ยวน้ำตาลก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรเคี่ยวด้วยไฟปานกลางเพื่อให้ได้น้ำจิ้มที่มีรสชาติกลมกล่อม

ไม่ควรไช้ไฟแรงน่ะครับเพราะมันจะทำให้การเคี่ยวส่วนผสมคล้ายๆกับวิธีการต้ม ทำให้น้ำตาลละลายซะก่อนที่จะผ่านการเคี่ยว ซึ่งรสชาติจะไม่กลอมกล่อมน่ะครับ

ส่วนสูตรในการปรุงน้ำจิ้มลูกชิ้นสูตรเด็ดวันนี้มี 2 สูตรที่นำมาฝากกันครับ คือสูตรสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสเผ็ดมาก และสูตรสำหรับคนทานเผ็ดน้อย หรือ ไม่ทานเผ็ด มีส่วนผสมและวิธีทำดังนี้
ส่วนผสมและวิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ด


ลักษณะการขาย : ไม้ละ 5 /10/ 15/ 20/ 25/ 30 (แล้วแต่ชนิดของลูกชิ้น)

การลงทุน : ไม่เกิน 15,000 บาท  ยอดขาย  1,500 - 5,900 / วัน (ขึ้นอยู่กับทำเลการขาย)

ทำเลการขาย : ตลาดนัด,เขตชุมชน,สถานที่ท่องเที่ยว,งานต่างๆ,(ขายได้เกือบทุกที่)

สูตร : 


ส่วนผสมในการทำน้ำจิ้ม

1. กระเทียมแกะเปลือกออกให้เกลี้ยง 300 g.
2. พริกชี้ฟ้าแดงสด 500 g.
3. มะเขือเทศ 500 g.
4. มะขามเปียกคั้นน้ำแล้ว 300 g. หรืออาจมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับรสชาติของมะขาม(เพิ่มลดตามความเหมาะสม)
5. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลปีบ 700 g.
7. น้ำตาลทราย 400 g.
8. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. นำมะขามเปียกแช่น้ำ จากนั้นเอาเม็ดมะขามออกคั้นเอาแต่น้ำกับเนื้อมะขามเข้มข้นเท่านั้น แล้วนำไปใส่โถปั่น ปั่นให้ละเอียด

2. ใส่น้ำตาลปีบและน้ำตาลทรายลงในหม้อ เอาไปเคี่ยวด้วยไฟปานกลาง แล้วรอจนน้ำตาลละลาย 

3. เอา กระเทียม พริกชี้ฟ้า มะเขือเทศ(ล้างสะอาด) น้ำมะขามเปียก ใส่เข้าไปในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าเพิ่มเล็กน้อย ปั่นจนละเอียดตามที่ต้องการ นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ลงหม้อน้ำเชื่อม เติมเกลือ (ลองชิมดูว่าได้ที่หรือยัง เพิ่ม/ลด เครื่องปรุงตามชอบ)

แล้วเคี่ยวต่อไปเรื่อยๆโดยใช้ไฟปานกลาง จนน้ำเชื่อมเริ่มเหนียว พักไว้ให้เย็นแล้วเอาเข้าไปเก็บในตู้เย็น สามารถเก็บไว้ขาย ได้หลายวันเลยครับ 

สำหรับสูตรเผ็ดน้อยให้ลดจำนวนพริกลง

น้ำจิ้มสูตรเด็ดนี้ท่านสามารถ เพิ่ม/ลด ส่วนผสมได้เพิ่มเติมตามความชอบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก การทำน้ำจิ้มลูกชิ้นเพื่อขายลูกชิ้นปิ้ง 

ควรทำอย่างน้อย 3 สูตร คือสูตรเผ็ดมาก และ เผ็ดน้อย และทำน้ำจิ้มสำหรับเด็กโดยไม่ใส่พริกด้วย กินกับผักสดๆจำพวก กะหล่ำ จะอร่อยยิ่งขึ้นมากเลยครบ



ขอให้โชคดีกับการเริ่มต้นครับ

(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

ร้าน ลูกชิ้นปลานึ่ง (น้ำจิ้มซีฟู๊ด)

ลูกชิ้นปลา,ร้านลูกชิ้นปลา,ตลาดนัด,ค้าขายตลาดนัด,อาชีพเสริม,ไอเดียธุรกิจ,ขายอะไรดี


ร้าน ลูกชิ้นปลานึ่ง

ขายลูกชิ้นปลานึ่งจิ้มซีฟู๊ด เป็นอาชีพเสริม ที่สามารถทำง่ายอุปกรณ์สำหรับขายลูกชิ้นนึ่งก็ไม่ยุ่งยาก มีเพียงหม้อนึ่งไฟฟ้าและโต๊ะพับสำหรับวางสิ่งของเช่น ถุงพลาสติก ไม้จิ้มลูกชิ้น/ช้อนพลาสติก ถุงหูหิ้ว ภาชนะใส่น้ำจิ้ม

ก็สามารถนำมาขายได้แล้ว แต่ถ้าหากไม่สะดวกในการใช้ไฟฟ้าก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สปิกนิค กับ ภาชนะสำหรับนึ่งลูกชิ้นแทนหม้อนึ่งไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน ลูกชิ้นปลาเหมาะสำหรับนึ่งร้อนๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ดเป็นความอร่อยที่ลงตัวทีเดียวครับ

ลักษณะการขาย : ถ้วย / ถุง 30 บาท(จำนวน 6 - 12 ลูก แล้วแต่ ยี่ห้อของลูกชิ้นที่ใช้) 

การลงทุน : ลงทุนไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับธุรกิจนี้ ยอดขาย 800 - 4 พันบาท/วัน (แล้วแต่ทำเล)

ทำเลการขาย : ตลาดนัด,เขตชุมชน,สถานที่ท่องเที่ยว,ย่านของกิน

สูตร

ลูกชิ้นปลาหาซื้อได้ตามท้องตลาด ส่วนน้ำจิ้ม มีสูตรดังนี้ 

สูตร : น้ำจิ้มซีฟู๊ด

1.พริกสดสีแดงผสมสีเขียว 2 ขีด
2.น้ำตาลปีบ ½ กิโลกรัม
3.กระเทียมแกะเปลือก 2 ขีด
4.ผักชี 2 ขีด
5.เกลือป่น 1 ช้อนชา
6.น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำเปล่า
8.น้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง


วิธีทำ ล้าง พริกสด ผักชี และกระเทียมให้สะอาดแล้วพักไว้ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นนำน้ำตาลปีบใส่ลงในหม้อแล้วเติมน้ำเปล่านำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง 

พอน้ำตาลเริ่มละลายเติมน้ำปลา เกลือป่น  น้ำมะนาวที่เตรียมไว้ เคี้ยวน้ำตาลต่ออีกสักพักแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
 นำพริกสด กระเทียม และผักชี ที่ล้างน้ำเตรียมไว้ ใส่ลงไปในเครื่องปั่น เติมน้ำตาลที่ปรุงไว้ให้ท่วมแล้วนำไปปั่นให้ละเอียด 
อาจแบ่งออกเป็น 2-3 ส่วนแล้วเติมน้ำปรุงนำไปปั่นครั้งละไม่มากจะทำให้เครื่องปั่นทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น ชิมรสตามความชอบ (สามารถเติมเครื่องปรุงได้ต้องการ)

ขอไห้โชคดีกับการเริ่มต้นครับ

(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

ร้าน ข้าวไข่เจียว"เมนูธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา"

ร้านสลัด/ค้าขายตลาดนัด/ลงทุนน้อย กำไรงาม/อาชีพอิสระ





ร้าน ข้าวไข่เจียว"เมนูธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา !"


    ข้าวไข่เจียวถือเป็นอาหารคู่ครัวคนไทยมาช้านาน ซึ่งแน่นอน แทบจะไม่มีใครไม่เคยกินข้าวไข่เจียว จริงมั้ยครับ ? อย่าดูถูกเชียวน่ะครับ ตอนนี้ไม่เพียงแค่บรรดาขาออฟฟิส แต่รวมถึงคนทำงานส่วนใหญ่ก็หันมาบริโภค ข้าวไข่เจียวกันเป็นว่าเล่น ด้วยเศรษฐกิจทรุดตัวมั่งล่ะ เบื่อข้าวแกงบ้างล่ะ หลายๆคนเลยคิดถึงเมนูง่ายๆ อย่าง "ข้าวไข่เจียว"เยอะมากกันเลยทีเดียวครับ (ที่สำคัญราคายังถูกกว่าอาหารชนิดอื่นด้วยครับ)

ลักษณะการขาย : บู๊ท,ซาเล้ง,รถเข็น,โต๊ะตลานัด,โต๊ะเดี่ยว,ฯลฯ
                               
                                ราคา ธรรมดา 10 บาท มีไส้ 15 - 25 บาท

การลงทุน : การขายข้าวไข่เจียวสามารถเริ่มต้นได้ด้วน ทุนน้อยมากครับ โดยไช้อุปกรณ์ครัวเรือนที่มีอยู่แล้วทำไห้ลดรายจ่ายไปได้เยอะเลยทีเดียวครับ เท่าที่หามามีแม่ค้าบางคนเริ่มต้นอาชีพนี้ได้ด้วยเงิน"เพียง 500 บาท"เองครับ

ส่วนยอดขายต่อวันนี่ไม่ธรรมดาเลยครับ 800 - 3,000 บาท/วัน กันเลยทีเดียว แถมส่วนต่างกำไรก็สูงเอาเรื่องครับ

ทำเลการขาย : โซนร้านอาหาร,เขตโรงเรียน,ใกล้โรงงาน,ใกล้ขนส่ง(รถโดยสารทุกชนิด),

สูตร : การทำไข่เจียวใครๆก็ทำได้ครับแต่ทำไห้อร่อยนั้นทำยากครับ วันนี้ผมมีสูตรไข่เจียวไห้ท่าน

(1). ข้าวไข่เจียวไส้ผัก เช่น หอมหัวใหญ่,มะเขือเทศ,หอมแดง,ใบแมงลัก,ชะอม,ใบโหรพา,ต้นหอม,ข้าวโพดออ่น(เลือกไส่อย่างใดอย่างนึง) ประเภทผักแนะนำเวลาตีไข่ให้ไช้ ผงปรุงรส รสไก่ ในการให้รสชาติเค็มแทนน้ำปลา ส่วนน้ำปลาแค่เหยาะใส่ไห้พอมีกลิ่น จะอร่อยมากเลยครับ

(2).ข้าวไข่เจียวไส่ไก่ สูตรยัดไส้ไก่ ไห้ตีไข่ผสม น้ำปลา+นมคาร์เนชั่นรสจืด เล็กน้อย จะอร่อยและขึ้นฟูดีมากครับ

(3). ข้าวไข่เจียวดิบๆไม่มีไส้ น้ำปลาดีที่สุดครับ

เสร็จแล้วยกเสริฟพร้อม ซอสพริกไห้รสชาติถูกปากทุกเพศทุกวัยแน่นอนครับ(แม่ค้าเขาว่างั้นครับ !)




                     ขอไห้โชคดีกับการเริ่มต้นน่ะครับ

(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้าน ฮ็อทด็อก&เบอร์เกอร์

ร้านฮ็อทด็อก&เบอร์เกอร์,ค้าขายตลาดนัด,ไอเดียของกินตลาดนัด,อาชีพอิสระ,ลงทุนน้อยกำไรดี



 ร้าน ฮ็อทด็อก&เบอร์เกอร์

      ถ้าพูดถึงฟาสฟู๊ด หรือ อาหารจานด่วน หลายๆคนคงมีภาพ ของเบอร์เกอร์ไม่ก็ฮ็อทด็อกผุดขึ้นอยู่ในหัว "ไช่แล้วครับ" เมนูง่ายๆที่ใครลิ้มลองแล้วต้องกลับมา ไช้บริการเป็นครั้งที่สองนี่หล่ะ คือ สุดยอดเมนูตลาดนัดในวันนี้

จุดเด่นของมันไม่ไช่แค่เพียงรสชาติ ที่ถูกปาก กลุ่มผู้บริโภคเกือบทุกเพศทุกวัย แต่ด้วยการมาพร้อมกับ บริการการขายที่รวดเร็วจึงไม่พลาด โอกาสทองและประสบการณ์ที่ทำไห้ลูกค้าประทับใจ  และพร้อมที่จะกลับมาไช้บริการอีก อย่างแน่นอน...!

ลักษณะการขาย : ขายเป็นชิ้น หรือ ขายเป็นชุดพร้อมน้ำ&เฟรนด์ฟราย

การลงทุน : - สามารถลงของพร้อมขายด้วยต้นทุน ตั้งแต่ 7,000 บาท
                - ราคาขายเริ่มต้นที่ ชิ้นละ 20 - 65 บาท
                                           ชุดละ 39 - 169 บาท
                - ยอดขายเฉลี่ย 1,700 - 12,000 บาท (แล้วแต่ทำเล) 

ทำเลการขาย : ตลาดนัด,ห้าง,ออฟฟิส,สถานที่ท่องเที่ยว,เขตผู้คนพลุกพล่าน

สูตร : ฮ็อทด็อก / เบอร์เกอร์
         ขนมปังทรงรี นุ่ม สำหรับ ฮ็อทด็อก / ขนมปังทรงกลม นุ่ม สำหรับ เบอร์เกอร์
         ฮ็อทด็อกไก่ เน้น แบบที่ผสมไก่เยอะๆหน่อย / ไส้เบอร์เกอร์ เน้นชิ้นหนาๆหน่อย(คุณภาพต้องมาก่อน)
         ซอสมะเขือเทศ,มัสตาร์ด / ซอสพริก,ซอสมะเขือเทศ,มายองเนส
         ผักกาดแก้ว,ผักดอง,หอมหัวใหญ่ / ผักกาดแก้ว,มะเขือเทศ,หอมหัวใหญ่
         

ขอไห้โชคดีกับการเริ่มต้นน่ะครับ

(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้าน ปลาหมึกย่าง เสียบไม้(ซีฟู๊ดรสเด็ด)!

ร้าน ปลาหมึกย่าง,ค้าขายตลาดนัด,ลงทุนน้อย กำไรงาม,อาชีพอิสระ,ไอเดียธุรกิจ

ร้าน ปลาหมึกย่าง (ซีฟู๊ดรสเด็ด)




                     
  ปลาหมึกย่าง จิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด เมนูยอดฮิตของคนทำงาน,นักเรียน,ตลอดจนผู้บริโภคหลากหลาย ที่มีร้านขายอยู่ตามชายหาดและตลาดนัดทั่วไป ในตัวเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งคงไม่ไช่ปัญหาในการ 'หาซื้อมาทาน' แต่ไม่ไช่ทุกที่ จะมีขายซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ไช่เรื่องง่ายเลย ที่คอซีฟู๊ดจะตามหาซื้อปลาหมึกย่างรสเด็ด มาทานอย่างเอร็ดอร่อย ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอนำเสนอ สูตรปลาหมึกย่างรสเด็ด จากชาวประมงภาคใต้ ต้นตำหรับซีฟู๊ดตัวยงเพื่อไห้ท่านผู้อ่านที่สนใจร้านค้ารูปแบบดังกล่าว นำไปเป็นข้อมูลประกอปการตัดสินใจ


ลักษณะการขาย : แผงตลาดนัดทั่วไป,รถเข็น,ซาเล้ง,โต๊ะเดี่ยว/ราคาขาย 10,15,20,25(แล้วแต่ไซต์ของปลาหมึก)

กางลงทุน : ลงทุนแรกเริ่มแค่ 3,900 บาท พร้อมขาย! (กรณีโต๊ะเดี่ยว)

                - โต๊ะพับ    ตัวละ  750 บาท (พยายามหาซื้อจากผู้ผลิตจะได้ราคาที่ถูกลง)

                - ร่มใหญ่ชนิดที่ไช้กางในตลาดนัด  คันละ 950 บาท (ร้านขายอุปกรณ์ทั่วไป)

                - ผ้าปูโต๊ะ(ผืนขนาดปานกลางพอดีโต๊ะ) ผืนละ 170 บาท

                - เตาปิ้งลูกชิ้น 380/450/530 บาท (แล้วแต่ขนาดเตาที่ไช้)

                - ไม้เสียบลูกชิ้นเบอร์ 8ถุงละ 25 บาท

                - ปลาหมึกกล้วย/ปลาหมึกไข่  กิโลละ 80 - 220 (แล้วแต่ฤดู)

                - อุปกรณ์เสริม เช่น ชุดพลาสติก ภาชนะต่างๆ ประมาณ 1200

                - เครื่องเทศ  (ระบุยากแล้วแต่จำนวนการไช้)

                ยอดขายเฉลี่ย วันละ 2,000 - 5,000 (แล้วแต่ทำเล)

ทำเลการขาย : เขตชุมชน,ตลาดนัด,สถานที่ท่องเที่ยว,ย่านอาหาร

สูตร : 2 ส่วน

ส่วนแรก หมักปลาหมึก

- ปลาหมึก 2 กิโล
- ผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนช้อนชา
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๋วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

 [ ขั้นตอนการหมัก ]  : นำเครื่องเทศและซอนผสมใส่ภาชนะที่เตรียมไว้แลใส่ปลาหมึกที่ผ่าเขี้ยวออก ล้างน้ำสะอาดแล้วใส่ลงไป คลุกเคล้าไห้เข้ากัน แล้ว เก็บในในตู้เย็น 2 ชั่วโมง

ส่วนที่สอง น้ำจิ้ม


- พริกขี้หนูเขียว 15 เม็ด
- พริกขี้หนูแดง 10 เม็ด
- กระเทียม 10 กลีบ
- ใบโหรพา 2 ใบ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

- น้ำกระทียมดอง 2 ช้อนชา
- บีบน้ำมะนาว 2 ลูก

 [ ขั้นตอนการหมัก ] : ใส่ทุกอย่างรวมกัน ยกเว้น มะนาว ตำไห้ละเอียด แล้วค่อยบีบมานาวคลุกเคล้าไห้เข้ากัน
(ไช้ครกตำ หรือ ปั่นกับเครื่องปั่นก็ได้ แต่ไช้ครกตำได้รสชาติอร่อยกว่า)




ขอไห้โชคดีกับการเริ่มต้นครับ


(ขอขอบคุณ ภาพประกอบ จากอินเตอร์เน็ต)





วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้าน บาร์บีคิว แบบทุนน้อย (แค่ 3,000 เอง)!!!

ร้าน บาร์บีคิว,ไอเดียค้าขาย,ลงทุนน้อย,ลงทุนต่ำกำไรสูง,อาชีพอิสระ,งาน






ร้าน บาร์บีคิว (ทุนต่ำ)!

   แต่เดิม การหาซื้อบาร์บีคิว มาทานเป็นเรื่องยากเพราะ ไม่ค่อยมีคนขายมากนัก แต่เดี๊ยวนี้สามารถหาทานหาซื้อกัน ได้ง่ายขึ้น เพราะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำหรับคนที่กำลังหายงานทำ หรือ หารายได้เสริมจากเวลาว่าง เพราะร้านดังกล่าว มีต้นทุนการขายไม่สูงมากนัก

ลักษณะการขาย : การขายบาร์บีคิวไม่มีขั้นตอนการขายที่ยุ่งยากมากนัก อาจเปิดแค่โต๊ะตึวเดียว หรือ ซาเล้ง หรือแผงตลาดนัดทั่วไป ก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นที่นิยมชมชอบ และ น่าหาซื้อมาทานอยู่แล้ว ราคาการขายเริ่มต้นตั้งแต่ ไม้ละ 5 บาท จนถึง 25 บาท แล้วแต่ความยาวในการเสียบไม้


(ไม้นี้ราคา 15 บาท)

การลงทุน : ทุนแรกเริ่มในการทำเริ่มต้นตั้งแต่ 2800 บาทสำหรับร้านเล็กๆ(ไม่รวมค่าเช่าที่และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆเช่น รถซาเล้ง เป้นต้น) และ เฉลี่ยยอดขายต่อวันตกอยู่ที่ 1500 - 4000 บาท(ขึ้นอยู่กับทำเล)


(ไม้นี้ราคา 20 - 25 บาท)


 ทำเลการขาย : เขตชุมชน,ตลาดนัด,สถานที่ท่องเที่ยว,บู๊ท,โรงอาหาร,(ขายได้เกือบทุกสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน)


สูตรอาหาร : จะแบ่งเป็น 3 ส่วน


ส่วนแรก สูตรหมักเนื้อ

- เนื้อ 1 ก.ก. (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- น้ำตาลทราย   1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงปาปริก้า 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ผงชูรส 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
- ซีอิวขาว    2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำกระเทียมดอง   2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรสฝาเขียว   1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา(ช่วย ยืดระยะเวลา ให้อาหาร อยู่ได้นานขึ้น)

[ขั้นตอนการหมัก]
นำเครื่องเทศแบบแห้ง ทุกอย่าง ใส่รวมกันในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วค่อยใส่ซอสต่างๆ(ประเภทน้ำ)ตามไป จากนั้นค่อยนำเนื้อที่หั่นเป็นชิ้นๆใส่เข้าไปรวมกันในภาชนะ(แนะนำภาชนะที่ใส่ควรเป็นโลหะ)คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเก็บใส่ตู้เย็นพักไว้ 2 ชั่วโมงค่อยนำมาเสียบ


ส่วนที่ 2 ซอสบาร์บีคิว

- ซอส มะเขือเทศ 1 ถุง(ประมาณ 1 ลิตร)
- ซอสพริก   1 ใน 3 ส่วนของ ซอสมะเขือเทศ
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา
- ยี่หร่าผง,ยี่หร่าตำละเอียด  2  ช้อนโต๊ะ
- ผงปาปริก้า 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูป่น เผ็ดน้อย ใส่ 1 ช้อนโต๊ะ เผ็ดปานกลาง ใส่ 2  ช้อนโต๊ะ เผ็ดมากใส่ 3 ช้อนโต๊ะ (ไม่ชอบเผ็ดก็ไม่ต้องใส่ แต่bbq คืออาหารรสจัดจ้านที่เน้นความเผ็ดร้อน หากกินหวานไห้ใส่น้ำตาลเยอะๆแทน)
- น้ำส้มสายชู เท่ากันกับ ซอสพริก(ถ้าข้นหรือเหลวไปเวลาเคี่ยว ไห้เพิ่มหรือลดตามความเหมาะสม)



[ขั้นตอนการปรุง]
นำทุกอย่างใส่ลงหม้อ หรือ กระทะก้นลึก แล้วนำไปตั้งไฟ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ 10 นาที พอได้กลิ่นหอม และข้นได้ที่ ก็ยกไปพักให้เย็น แล้วนำไปไช้ได้เลย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน สำหรับ เคลือบย่าง/ราด,จิ้มทาน


ส่วนที่ 3 การเสียบย่าง

- สัปรด หั่นเป็นชิ้นเล็กเตรียมไว้เสียบ กับ บาร์บีคิว
- หอมใหญ่ หั่น เป็นแผ่น
- พริกหยวก หรือ พริกหวาน หั่นเป็นแผ่นพอดีคำ
- มะเขือเทศสีดา
-ใส้กรอก
[ขั้นตอนการย่างให้อร่อย]
นำสัปรด,เนื้อ,หอมใหญ่,พริกหวาน,ไส้กรอก,มาเสียบ ผักสลับเนื้อทีละชั้นแล้วแต่ความยาว ตามขนาดของ ราคาขาย แล้วปิดท้ายยอดด้วย มะเขือเทศพันธุ์สีดา(ลูกเล็ก) เอาแปรงชุปซอสทาไห้ทั่วแล้วนำไปย่าง ระหว่างย่างหมั่นทาซอสบางๆ(กลิ่นจะฟุ้งน่ากินมาก)
เวลาขายไห้ลูกค้า เตรียมซอส หวาน กับเผ็ด ไห้ลูกค้าด้วย


ขอไห้โชคดีกับการเริ่มต้นครับ


(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้าน ข้าวยำ

ข้าวยำ,ค้าขายตลาดนัด,อาชีพอิสระ,ลงทุนน้อย กำไรงาม,ต้นทุนต่ำ,ก้าวแรกสู่การเป็นเจ้าของกิจการ





ร้านข้าวยำ 

        อาหารจานเดียวชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างอย่างสูงในภาคใต้ของประเทศไทย มียศฐาบันดาศักษ์ ไม่ต่างไม่จากส้มตำแซ่ปๆของภาคอีสานเลยทีเดียว ทางภาคใต้นิยมชมชอบการรับประทานข้าวยำเป็นอาหารเช้าเพราะอุดมไปด้วยสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่และยังนิยมรับประทานในช่วงค่ำด้วยเพราะข้าวยำมีไฟเบอร์ช่วยในการย่อยอาหาร จึงเป็นเมนูยอดฮิตที่รานำมาฝากกันวันนี้


ลักษณะการขาย : ตั้งหน้าร้านหรือโต๊ะกางร่มแบบตลาดนัดก็ได้(ถ้าสามารถนั่งกินที่ร้านได้ก็จะดีมากๆเลย)โดยทั่วไปข้าวยำมักทานคู่กับ ไข่ต้มและข้าวข้าวเกรียบโดยสามารถขายแยกได้ แต่ส่วนใหญ่มักขายเป็นเซ็ตครบชุด ชุดละ 20-35 แล้วแต่ทำเลการขาย

การลงทุน : ต้นทุนแรกเริ่มสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 3,000 บาท(ไม่รวมอุปกรณ์) และ 7,000 - 20,000 บาท(รวมอุปกรณ์/แล้วแต่ขนาดร้านค้า) ต้นทุนข้าวยำหนึ่งจาน เฉลี่ยอยู่ที่
6 - 10 บาท
ทางภาคใต้นิยมขายราคา จานละ 10 - 15 บาท ต่อจาน และ 20 - 35 บาท ต่อเซ็ต
รายได้เฉลี่ยขายได้  1,500 - 4,500 /วัน (แล้วแต่ทำเลการขาย)

ทำเลการขาย : กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็น ผู้หญิง และ กลุ่มผู้รักสุขภาพ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักข้าวยำ แต่หากสถานที่ใดมีกลุ่มคนจากภาคใต้เยอะๆ ก็เปิดขายได้เลยครับ รับรองรู้จักกันทุกคนครับ เช่น หน้า ม.รามคำแหง ตลาดมีนบุรี เขตชุมชน และสถานที่ต่างๆ ที่มีกลุ่มลูกค้าดังกล่าว จากนั้นจะมีการบอกปากต่อปากทำไห้ลูกค้าเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆครับ เพราะตัวสินค้ามีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว

สูตร : ขั้นตอนการปรุง
- ข้าวสวย(ตอนหุงใส่น้ำดอกอันชัญ ก็จะเป็นสีม่วง)     1 - 1 1/2 ทัพพี
- บูดูข้าวยำ ราดเยาะๆพอทั่วถึง                               1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ปลาป่น  โรยไห้ทั่ว                                             1 1/2 - 2 ช้อนโต๊ะ
- มะพร้าวคั่ว โรยไห้ทั่ว                                          1 ช้อนโต๊ะ
- ผักรวม(ซอย/หั่น เป็นชิ้นเล็ก) ถั่วฝักยาว,กะหล่ำปรี,
ใบผักบุ้ง/ยอดผักอ่อนชนิดใบเขียว,แครอท,ตะไคร้,
ถั่วงอก (อย่างละประมาณครึ่งชอนชา ยกเว้นถั่วงอกใส่เยอะหน่อย)
-หมี่เส้นเล็กผัด ใส่น้ำปลาน้ำตาลเล็กน้อยใส่สีผสมอาหารสีส้ม/ชมพู (ตัวหมี่เส้นไม่ใส่ก็ได้ แต่ถ้ามีรสชาติข้าวยำจะอร่อยมากขึ้น)
เวลาทาน ปรุงรสด้วย พริกป่นแห้งกับพริกไทยเล็กน้อย ทานคู่กับ ไข่ต้ม,ข้าวเกรียบ,ก้านผักบุ้งที่ไม่ได้ไช้หั่นหรือซอย,แตงกวา,ถั่วฝักยาว

 (ข้าวเกรียบที่ไช้ทานคู่กับข้าวยำ ราคาขายแผ่นละบาท ราคาซื้อแบบดิบยังไม่ทอด ไม่เกิน 50 บาท ร้านข้าวเกรียบที่ขึ้นชื่อต้องร้าน คุณริส ยะลา 0808735506 ทางร้านเขามีการคัดเลือกข้าวเกรียบสำหรับข้าวยำด้วย)


(ปลาป่นคั่ว ราคาก.ก.70-120 แล้วแต่การขึ้นลงของราคาปลาที่ไช้คั่ว)

(ข้าวยำแบบร้านหรูจานละ 35-150 บาท)

(ข้าวยำข้างทางหรือตลาดนัด 10-20/ไม่รวมข้าวเกรียบและไข่ต้ม)

(บูดูข้าวยำ น้ำบูดูมีหลายชนิดชนิดที่ไช้ทำข้าวยำคือบูดูข้าวยำ ราคาลิตรละ 50 - 100 บาท)

อุปกรณ์เเละเครื่องข้าวยำต่างๆท่านสามารถสั่งซื้อโดยตรงจาก ร้านคุณริส 0808735506 หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไปใกล้บ้านท่าน 

ขอไห้โชคดีกับการเริ่มต้นครับ

(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ร้าน ซูชิ 5 บาท

ร้านซูชิ 5 บาท,ซูชิ,ลงทุนน้อย กำไรงาม,ต้นทุนต่ำ,sushi


ร้าน ซูชิ 5 บาท

        ปัจจุบัน ร้านซูชิ 5 บาทถือว่าเป็นร้านที่มีอัตราผู้ขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วย ตัวสินค้ามีความโดดเด่นและเป็นที่ต้องการของตลาด ของกินประเภทนี้มักนิยมโดยกลุ่มลูกค้าประเภท วัยรุ่น,เด็ก,นักเรียน,นักท่องเที่ย


ลักษณะการขาย : ตั้งร้านหรือแผงลอยการขายขนาดย่อม วางขาย ณ สถานที่ที่ตรงต่อกลุ่มเป้าหมาย วิธีการสั่งซื้อวัตถุดิบก็ไม่ยาก โดยสั่งซื้อผ่านตัวแทนนำเข้าวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย ปัจจุบัน มีให้เลือกหลากหลายจ้าว โดยแต่ละจ้าวจะมีเทคนิคและโปรโมชั่นแตกต่างกันไป ส่วนการสั่งซื้อวัตถุดิบจะซื้อกันเป็นรอบ แล้วเก็บใส่ตู้ฟรีซ หรือ ช่องฟรีซของตู้เย็น (วัตถุดิบเก็บได้เป็นเดือน) แล้วแต่ ว่าขายหมดเมื่อไหร่ก็ค่อยสั่งซื้อเพิ่ม บางจ้าวสั่งกันเดือนละครั้ง บางจ้าวก็อาทิตย์ละครั้ง ส่วนจ้าวที่ขายดีๆหน่อยก็สั่ง วันเว้นวัน หรือ สามวันครั้ง

สถานที่ขาย : จำเป็นอย่างยิ่งที่จะเลือกทำเลที่ขายที่มีกลุ่มลูกค้าข้างต้นอาศัยอยู่หรือเดินเดินผ่าน เพราะจะมีผลต่อยอดขายโดยตรงของธุรกิจนี้ เช่น ตลาดนัด,ย่านโรงเรียน,สถานที่ท่องเที่ยว,ย่านชุมชน(ขนาดกลาง - ใหญ่)

ยอดขาย : ขึ้นอยู่กับ ทำเลการขายของแต่ละร้าน ซึ่งเฉลี่ยแล้วร้านค้าชนิดนี้ จะมีรายได้ตั้งแต่ 1500 - 5000 บาท ต่อวัน โดยค่าต้นทุน 50-60% ก็จะมีกำไรตก 700 - 2พันกว่าบาท/วัน(ไม่รวมค่าเช่าและค่าเดินทาง)

การลงทุน : ร้านประเภทนี้ มีค่าไช้จ่ายแรกเริ่มในการลงทุน (ไม่รวมค่าเช่า) โดยประมาณ 4000 - 9000 ขึ้นอยู่กับขนาดของร้านค้าและการขึ้นลงของราคาวัตถุดิบ และไช้เงินหมุนเวียนในการสั่งซื้อวัตถุดิบแต่ละรอบเฉลี่ย 3 - 7 พันบาท

อุปกรณ์

ท่านสามารถ เลือกซื้ออุปกรณ์ และ วัตถุดิบเกี่ยวกับร้านอาหารประเภทนี้ บางส่วนได้ที่ http://adosushi.com หรือ http://www.jjsushi.com  เว็ปไซต์ผู้ไห้บริการทั้งสองแห่งล้วนแต่ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้า ทั้งคุณภาพ และ ราคาสินค้า

ลิ้งค์สอนทำซูชิโดย อ.สายพิน รัตนอาภา http://m.youtube.com/watch?v=zCi5k4CABOQ

ขอให้โชคดีกับการเริ่มต้นครับ

(ขอขอบคุณ ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต)

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

งาน > งานอิสระ > ลงทุนน้อย > ค้าขาย > ตลาดนัด

งาน,งานอิสระ,อาชีพอิสระ,ลงทุนน้อย,ขายอาหาร,ไอเดียร้านอาหาร,ร้านอาหารริมทาง,อยากทำงาน,ตลาดนัด



การทำงาน ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ หลายๆคนโชคดี ที่ยังได้ร่วมงานอยู่กับบองค์กร หรือ บริษัทดีๆ ที่ยังจ่ายค่าครองชีพ ให้พนักงานอย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือน แต่ก็ยังมีอีกจำนวนไม่น้อย ในจำนวนประชากรของประเทศ ที่ยังคงสถานะ "ว่างงาน"

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล พึ่งเรียนจบ,ตกงาน,ถูกไล่ออก,ลาออก,อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง,อยากได้โอกาส
ฯลฯ

และ อีกหลายๆเหตุผล ที่ยังรอคอยโอกาส' ในการตามล่าหาอาชีพที่ตนถนัดหรือพอที่จะทำได้ในขณะที่ยังไม่มีงานอื่นทำ

ทางเว็ป จึงได้รวบรวมเอาอาชีพ งานอิสระที่ลงทุนน้อย และคนส่วนใหญ่สามารถทำได้ หากมีความตั้งใจ และยังสามารถต่อยอดไปได่เรื่อยๆไม่รู้จบ

ใครจะรู้ หลังจากอ่านบทความและข้อมูลที่เราเตรียมไว้ไห้แล้วคุณอาจเป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคตก็เป็นได้!


โดยทางเว็ป จะรวบรวมข้อมมูลมาทั้ง ค่าไช้จ่ายในการลงทุน>สูตร>และทำเลการขาย ไว้ไห้ท่าน ชนิดที่หามาได้ยากมากแถมข้อมูลทุกอย่าง ฟรี

เพื่อสนับสนุนคนไทยให้มีงานทำ เว็ปไซต์  ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการหาไอเดียการสร้างธุรกิจของท่าน ขอแสดงความขอบคุณสำหรัยการติดตาม และขอไห้ท่านโชคดีกับการเริ่มต้นในสายอาชีพของท่าน